โรงแรมที่พักราคาโปรโมชั่นใน ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี





ที่พักแนะนำในหัวหิน




โรงแรมที่พักราคาโปรโมชั่นใน ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี
ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ

พักผ่อนชาร์ตพลัง 4 วัน 3 คืน ที่พักห้าดาวริมหาดชะอำ-หัวหิน @ เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา


วันหยุดพักผ่อน 4 วัน  3 คืน ครั้งนี้ พวกเราเลือก เชอราตันหัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา เพราะติดใจในคุณภาพมาตรฐานของ เชอราตัน มากๆ หลังจากที่เคยไปพักที่ เชอราตันหัวหิน ปราณบุรี วิลล่า เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยเฉพาะมาตรฐานของที่นอนที่เรียกว่า "Sheraton Signature Bed" สามารถหาอ่านได้จากรีวิวครั้งที่แล้วนะครับ

การเข้าพักครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ คือต้องการพักกันจริงๆ อยากใช้ชีวิตอยู่แต่ในที่พัก ทั้งกิน ทั้งนอน ทั้งกิจกรรมต่างๆ ไม่ต้องการออกไปไหนเลย ทำให้ทริปนี้ไม่มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว หรือ แหล่งกินในหัวหินเลย

ซึ่งต้องบอกเลยครับว่า พวกเราไม่ผิดหวังเลยที่เลือก เชอราตันหัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับวันหยุดของพวกเรา

ตามชมรีวิวกันเลยดีกว่าครับ



เชอราตันหัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ริมชายหาด ระหว่างชะอำ กับ หัวหิน ซึ่งถือว่าสะดวกดีครับ โดยเฉพาะทริปลักษณะนี้คือ ไม่อยากไปเที่ยวไหนเลยนอกจากมานอนพักผ่อนชาร์ตพลังในวันหยุดกับครอบครัวเท่านั้น...



เริ่มต้นจากล็อบบี้ ที่มีขนาดกว้างขวางมากๆ


ที่นี่มีเค้าเตอร์เช็คอินน์แยกหลายจุดเลยครับ ถ้ามีลูกค้าเช็คอินน์พร้อมๆ กัน สามารถแยกกันไปได้หลายๆ เค้าเตอร์






ในกรณีที่มีลูกค้าเยอะมาก ที่บริเวณล็อบบี้ มีที่ให้นั่งพัก เพื่อรอเช็คอินน์ อยู่เยอะมากๆ




เช็คอินน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตามไปชมห้องพักกันเลยดีกว่าครับ

ต้นไม้ขวางเส้นทาง แต่ยังคงถูกเก็บรักษาไว้ 
สุดยอดเลย...










ห้องพัก

ถึงบริเวณห้องพักจะมีป้ายบอกว่า กรุณาลดการใช้เสียง..
ปกติไม่ค่อยเห็นป้ายเตือนแบบนี้นะครับ..


ห้องพักที่เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา แบ่งออกเป็น 7 ประเภทด้วยกัน คือ
  1. ห้องการ์เด้น วิว
  2. ห้องการ์เด้น เทอเรซ
  3. ห้องลากูน วิว
  4. ห้องลากูน แอคเซส
  5. ห้องโอเชี่ยน ฟร้อนท์
  6. ห้องลากูน สวีท
  7. ห้องโอเชี่ยน สวีท

ห้องประเภท การ์เด้น และ ลากูน ภายในห้องจะตกแต่งคล้ายๆ กัน แต่ต่างกันตรงตำแหน่งที่ตั้งของห้องพัก และ วิวจากตัวห้องพัก แต่ถ้าเป็นห้องพักประเภทโอเชี่ยน ก็จะเป็นห้องพักขนาดใหญ่ มีส่วนของห้องนั่งเล่น และ ตัวห้องพักจะตั้งอยู่ติดกับบริเวณด้านหน้าชายหาด




ห้องพักที่นี่จะตั้งอยู่ในอาคารขนาดความสูง 2 ชั้น





ห้องพักประเภท การ์เด้น เทอเรซ

ห้องนี้พักประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่รักธรรมชาติ ชอบความเขียวขจีของต้นไม้ ซึ่งบริเวณด้านหลังห้องพักจะมีระเบียงเชื่อมต่อออกไปกับสนามหญ้า และ สวนสวยๆ ซึ่งเป็นสวนพืชเขตเมืองร้อน




ภายในห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำ และ ห้องอาบน้ำแบบฝักบัวให้

Amenities มีให้ครบครัน
แต่ถ้าใครคิดว่ายังต้องการอะไรเพิ่มเติม สามารถ request ได้ครับ เจ้าหน้าที่จะนำมาให้ที่ห้องพัก



ห้องพักประเภท ลากูน แอคเซส

ภายในห้องพักเหมือนกับห้องประเภทการ์เด้น แทบทุกอย่างนะครับ คือที่นี่เค้าเน้นความแตกต่างของบรรยากาศภายนอกห้องพักมากกว่า สำหรับภายในห้องพัก ไม่ว่าคุณจะพักแบบไหน คุณจะได้ห้องพักที่ตกแต่งสวยและได้เตียงนอนที่นอนแสนจะสบายเหมือนกันหมดครับ

แต่ภายในห้องพักประเภทนี้อาจจะต่างกันนิดหน่อย ตรงที่มีเครื่องเล่นวีดีโอให้ 


ถ้าอยากมองออกไปด้านนอก แล้วเห็นวิวแบบนี้ ก็ต้องจองห้องพักฝั่ง ลากูน เท่านั้น

แล้วยิ่งถ้าอยากเห็นวิวแบบนี้แล้ว เดินลงสระได้เลย ก็ต้องเลือกเป็น ลากูน แอคเซส เท่านั้นเช่นกันครับ





บรรยากาศภายในห้องพัก จะมีเตียงนอนขนาดใหญ่ ซึ่งเค้ามีให้เลือกนะครับ บางคนอาจจะเลือกเป็นแบบ Twin ก็ได้ ส่วนข้างๆ เตียงนอน จะมีโซฟาเบด ขนาดใหญ่ สามารถใช้แทนเตียงเสริมได้เลย


ภายในห้องพักจะมี Welcome Fruit ให้ด้วยนะครับ



อีกอย่างที่ผมชอบภายในห้องพัก คือสีของผ้าม่านเนี่ยแหละครับ เค้าเลือกใช้ผ้าม่านได้มีสีสันจริงๆ ต่างจากผ้าม่านที่อื่นๆ ที่เคยเห็นมาเลย เพราะว่าส่วนใหญ่จะใช้สีโทนเรียบๆ 

และที่เด็ดไปกว่านั้นคือ ผ้าม่านพวกนี้เป็นผ้าม่านจาก จิม ทอมป์สัน เลยนะครับเนี่ย

มาพักครั้งนี้ไม่ค่อยได้ใช้บริการโต๊ะเขียนหนังสือซักเท่าไหร่ เพราะว่าเน้นมาพักผ่อนล้วนๆ
รอบนี้ไม่มีโน๊ตบุ๊คติดมาด้วยเลย






ห้องพักแบบลากูนแอคเซส จะสามารถเดินลงสระว่ายน้ำด้านหลังห้องพักได้เลย

แต่สำหรับห้องพัแบบลากูน วิว จะเป็นห้องพักที่อยู่ชั้นสอง ซึ่งสามารถมองเห็นวิวของสระว่ายน้ำได้จากชั้นบน



อย่างไรไม่ว่าคุณจะพักห้องพักประเภทไหน คุณก็สามารถลงว่ายน้ำในสระใหญ่นี้ได้ เพราะตามสองฝั่งของสระว่ายน้ำจะมีจุดให้ลงว่ายน้ำได้เป็นระยะครับ




ห้องพักประเภท โอเชี่ยน สวีท

ห้องพักประเภทนี้จะเป็นแบบ 2 ชั้นเหมือนกันครับ ชั้นล่างจะเรียกว่า โอเชี่ยน สวีท ซึ่งเป็นห้องพักที่สามารถเดินออกไปที่บริเวณหน้าหาดได้เลย ส่วนห้องพักที่อยู่บนชั้นสองจะมองเห็นวิวของทะเลได้จากมุมสูง ซึ่งก็มีข้อดีต่างกันไป
เมื่อเดินเข้ามาในห้องจะเจอส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นก่อน


จากตัวห้องนอนสามารถเปิดม่านเพื่อมองออกไปจะเป็นวิวทะเล สวยมากครับ
ได้บรรยากาศของการมาพักผ่อนที่หัวหินสุดๆ


เตียงนอนใหญ่ หนา นอนสบาย ตามสไตล์เชอราตัน ซิกเนเจอร์ เบด..


ทีวีจอใหญ่มีให้ทั้งในห้องนอนและห้องนั่งเล่น



แต่ห้องพักประเภทนี้จะมีเครื่องเสียง BOSE ให้ด้วยครับ


ภายในห้องน้ำพื้นที่ใช้สอยใหญ่มากๆ มีอ่างล้างหน้าให้ 2 อ่าง ไม่ต้องแย่งกันใช้


Amenities ภายในห้องพักประเภทนี้จะมีให้เยอะกว่าห้องพักในแบบอื่นๆ
และจะห่อใส่ไว้ในแพ็คเกจที่ดูสวยงามหรูหรากว่า สมราคา สมฐานะ.. :-)


มืดแล้วพาชมบรรยากาศยามค่ำคืนกันซักหน่อย









อาหารเช้า และ ห้องอาหารภายในรีสอร์ท

ตื่นแต่เช้าเช่นเคย เพราะว่าอยากออกไปเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ที่บริเวณชายหาด


เช้าๆ ยังไม่มีใครตื่นกันเลย แน่นอนล่ะครับ ก็นอนสบายซะขนาดนั้น มีแต่ผมคนเดียวเนี่ยแหละ ออกมานั่ง ฟินน์กับบรรยากาศยามเช้า ที่ผมรู้สึกว่าคุ้มค่ามากๆๆๆ


นั่งรอ จนกระทั่ง 6.35 พระอาทิตย์ก็เริ่มมาตามนัดเลยครับ



พระอาทิตย์ดวงกลมๆ สีส้มสด เริ่มปรากฎตัวให้เห็น



จังหวะนี้ รู้สึกว่า อยากให้ทุกคนลุกขึ้นมาเห็นภาพนี้ด้วยกัน เพราะว่ามันสวยจริงๆ แล้วช่วงเวลาที่สวยงามแบบนี้ มันมีให้ชมได้แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง


หลังจากชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อย เดี๋ยวเดินไปห้องอาหารเช้ากันต่อเลยครับ


ก่อนจะพาไปห้องอาหารเช้า ผมขอแนะนำเกี่ยวกับห้องอาหารทั้งหมดของที่เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ก่อนละกันครับ

ห้องอาหารที่นี่จะมีทั้งหมด 5 แห่งด้วยกันคือ
  1. The Deck ให้บริการอาหารเช้า และ เมนูตามสั่งสำหรับมื้อกลางวัน และ มื้อค่ำ
  2. Inazia เป็นห้องอาหารที่ได้รับรางวัลมาหลายปีติดต่อกัน ห้องอาหารแห่งนี้เป็นห้องอาหารที่มีการตกแต่งแบบผสมผสานสไตล์ร่วมสมัย แบบอินโด-ไชนีส ห้องอาหารนี้จะให้บริการอาหารจีน อินเดีย และ ญี่ปุ่น
  3. Salas ห้องอาหารซาลาส ให้บริการ อาหารอิตาเลี่ยน ซึ่งตรงนี้จะเน้นบรรยากาศแบบ Open Air น่ะครับ เราสามารถเลือกนั่งภายในห้องอาหาร หรือ นั่งบนศาลาริมสระว่ายน้ำก็ได้
  4. Luna Lanai ห้องอาหารติดชายหาด เปิดโล่ง ที่นี่จะให้บริการอาหารไทย และ อาหารทะเล สดใหม่ อร่อยมากๆๆ
  5. Sundara Lounge ห้องอาหารที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณล็อบบี้ ให้บริการเครื่องดื่ม และ ของทานเล่น ภายในห้องอาหารจะมีโต๊ะสนุ๊กเกอร์ ให้เล่นเพลินๆ



สำหรับทริปนี้เราได้ใช้บริการห้องอาหารทุกห้องเลยครับ เพราะว่าอยู่กันหลายวัน ก็ใช้ชีวิตอยู่กันที่นี่ตลอด ไม่อยากออกไปไหนเลย ที่สำคัญรู้สึกว่าราคาอาหารที่นี่ไม่ได้แพงเว่อร์อะไรมากมายเลย แถมรสชาติก็อร่อยมากๆ ด้วย โดยเฉพาะที่ Luna Lanai นี่ สุดยอดมากทั้งบรรยากาศทั้งรสชาติอาหาร


ตามมาชมกันต่อเลยดีกว่าครับ








ห้องอาหาร The Deck

มาทานอาหารกันที่ห้องอาหารนี้ครับ ตั้งอยู่อาคารเดียวกับล็อบบี้ แต่เดินลงมาชั้นล่าง
อาหารเช้าเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 06.30 - 10.30 น.
อาหารกลางวัน 11.30 - 14.30 น.
อาหารเย็น 17.30 - 22.00 น.


ที่นั่งทานอาหารจะมีทั้งแบบในห้องแอร์ และ แบบด้านนอก แล้วแต่ชอบเลยครับ



ถ้านั่งด้านนอก ได้นั่งที่นั่งริมสระแบบนี้ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ





ไลน์อาหารที่นี่จะมีให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยครับ ขนาดพักหลายวันยังทานได้ไม่ครบเลย

แต่ส่วนใหญ่พวกเราจะเน้นอาหารไทยๆ น่ะครับ
อย่างผัดกะเพราอะไรแบบนี้ รู้สึกทานอิ่มท้องดี

แต่ถ้าใครเบื่ออาหารไทย ก็อาจไปเลือกทานลาซานญ่า หรือ อาหารฝรั่งก็ได้ครับมีให้เลือกเยอะ
รสชาติอาหารก็อร่อยดีนะครับ




บริเวณด้านนอกเค้าจะมีซุ้มก๋วยเตี๋ยวด้วยนะครับ
สั่งมาทานทุกวันเลย อร่อยดี ครับ




ห้องอาหาร Salas (ซาลาส)

ห้องอาหารซาลาส เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยน ที่นี่เค้ามีเตาอบพิซซ่า ซึ่งถ้าใครได้สั่งพิซซ่ามาทานจะได้กลิ่นอบพิซซ่าหอมฉุยเลยล่ะครับ บรรยากาศของจะเป็นแบบเปิดโล่ง สามารถมองเห็นวิวได้รอบ 360 องศาเลย

จะเลือกทานในร้านหรือไปนั่งตามซุ้มศาลาริมน้ำก็ได้ครับ แล้วแต่ชอบ

ส่วนตอนค่ำจะมีนักร้องมาขับกล่อม เพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ

มาดูหน้าตาอาหารกันเลยดีกว่าครับ






บรรยากาศช่วงค่ำที่ร้านอาหารซาลาส


ลูกค้านั่งกันเต็มเลย โดยเฉพาะคืนที่มีดนตรีสดเล่นให้ฟัง





The Sheraton Club
สำหรับ The Sheraton Club จะเป็นห้องรับรองสำหรับแขกที่เป็นสมาชิกแบบ Platinum ของเชอราตันน่ะครับ ในช่วงเช้าหากใครไม่ต้องการไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร The Deck ก็สามารถมาสั่งอาหารแบบ Alacarte ทานที่นี่ก็ได้ครับ

หรือช่วงเย็น จะมานั่งเล่นชิลล์ๆ ทานของว่าง จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ก็ได้เช่นกัน
อันนี้เป็นเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะสำหรับแขกระดับ Platinum เท่านั้น

แต่หากใครต้องการจะมานั่งทานของว่างและเครื่องดื่มที่นี่ ถ้าคุณไม่ได้เป็นสมาชิกแบบ Platinum ก็สามารถมาทานได้ แต่ต้องเสียค่าบริการ 2,500 บาท ต่อวัน ..



ทุกอย่างทานได้เรื่อยๆ ไม่อั้นเลย.. 




ช่วงค่ำเดี๋ยวเราไปทานอาหารกันต่อที่ Luna Lanai ครับ ร้านอาหารไทยและซีฟู๊ด ริมหาด บรรยากาศสุดยอด






ห้องอาหาร Luna Lanai

ห้องอาหารติดริมหาด ที่นี่เค้าบริการอาหารไทยและอาหารทะเลสดใหม่ ซึ่งปกติที่นี่เค้าเปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 - 23.00 น. เลยล่ะครับ บางค่ำคืนจะมีดนตรีมาเล่นให้ฟังด้วย

บรรยากาศชิลล์มากๆๆๆ


มานั่งทานห้องอาหารไทย แต่อยากทานพิซซ่า ก็สามารถสั่งมาทานได้ครับ พนักงานเค้าจะไปสั่งมาจากห้องอาหาร ซาลาส ให้อีกที












ห้องอาหาร InAsia (อินเอเซีย)
สำหรับห้องอาหารนี้เค้าจะเน้นอาหารอินเดียซะส่วนใหญ่นะครับ แต่ก็มีอาหารจีน กับอาหารญี่ปุ่นให้บริการด้วยเช่นกัน เท่าที่สอบถามกับทางพนักงาน เค้าไม่ค่อยเน้นอาหารจีนมากนัก

การตกแต่งภายในจะเน้นสไตล์ร่วมสมัย โทนสีอบอุ่น ผสมผสานศิลปะแบบอินโด-ไชนีส











ห้องอาหาร Sundara Lobby Lounge (ซันดารา ล็อบบี้ เลาจน์)
ห้องอาหารนี้จะตั้งอยู่ตรงบริเวณล็อบบี้ สำหรับต้อนรับแขกที่ต้องการพักผ่อน หรือ นั่งเล่นบริเวณล็อบบี้ของทางรีสอร์ท ที่ห้องอาหารนี้จะมีบริการเครื่องดื่มหลากหลายชนิด รวมถึงอาหารทานเล่นต่างๆ เช่นเค้ก โรล และ มีโต๊ะสนุ๊ก โต๊ะบอลแบบมือหมุน และ ที่ปาลูกดอกให้เล่นเพลินๆ

ส่วนในช่วงค่ำจะมีดนตรีสดสับเปลี่ยนจากห้องอาหารอื่นๆ ภายในรีสอร์ท มาเล่นให้ฟังด้วยนะครับ
เปิดให้บริการตั้งแต่ 07.30 - 24.00 น.
มีดนตรีสดเล่นให้ฟังช่วง 19.30 เป็นต้นไป






สำหรับราคาอาหารที่ระบุในเมนูของทุกห้องอาหาร จะเป็นราคาสุทธิไม่มีบวกเพิ่มแล้วนะครับ ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณเป็นสมาชิก SPG จะได้สิทธิ์ลดค่าอาหารทันที 20% ทุกมื้อ ทุกห้องอาหาร (SPG สมัครฟรีที่ห้องอาหารได้เลยล่ะครับ)




มีอะไรทำบ้างที่เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา

การเข้าพักที่เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ส่วนใหญ่แขกที่เข้าพักจะเน้นการลงเล่นน้ำกัน เพราะว่าสระว่ายน้ำที่นี่ใหญ่มากๆ สามารถว่ายเล่นรอบๆ รีสอร์ทได้เลย เพราะว่าสระจะเชื่อมถึงกันเป็นวงกลม จากบริเวณด้านหลังห้องพัก ไปถึงสระว่ายน้ำใหญ่ ซึ่งอยู่ติดกับชายหาด แล้วย้อนวนกลับมา ถ้าว่ายครบรอบก็น่าจะเป็นกิโลเลยล่ะครับ


ในส่วนของกิจกรรมอื่นๆ ก็น่าจะเป็นการหาที่นั่งพักผ่อน ตามซุ้มศาลาต่างๆ โดยเฉพาะใกล้ๆ กับห้องอาหารซาลาส จะมีศาลาให้นั่งเล่น เราสามารถสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มานั่งทานไปเพลินๆ ได้ครับ

แต่บริเวณนี้เค้าห้ามสูบบุหรี่นะครับ มีโทษปรับแพงใช้ได้เลย


อากาศร้อนๆ ลงว่ายน้ำซะหน่อยก็ได้ครับ สระยาวมาก ว่ายกันสะใจเลย



หรือหากมาเที่ยวกันแบบครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ก็สามารถมาใช้ชีวิตอยู่ที่ Kid's Club ก็ได้ครับ เพราะว่า Kid's Club ที่นี่ใหญ่มาก มีทั้งกิจกรรมในที่ร่มห้องแอร์ หรือ ออกมาเล่นด้านนอกก็ได้ครับ นอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กด้วยครับ



หากเด็กๆ จะลงไปเล่นในบ้านบอล ต้องเตรียมถุงเท้าไปด้วยนะครับ
ถ้าไม่มีถุงเท้าเจ้าหน้าที่จะไม่ให้ลงไปเล่น

ในช่วงเย็นจะมีเจ้าหน้าที่เดินทำความสะอาดของเล่นพวกนี้ด้วยครับ เพราะฉะนั้นเรื่องความสะอาดเชื่อถือได้เลย ที่พูดแบบนี้เพราะว่าพวกเราอยู่ที่นี่กันจน Kid's Club ปิดเลยน่ะครับ ก็เลยเห็นว่าช่วงก่อนปิดเจ้าหน้าที่เค้าทำอะไรกันบ้าง..



ใครชอบออกกำลังกายก็อาจจะมาใช้บริการโต๊ะปิงปองนี่ก็ได้ครับ


ห้องฟิตเนส ของทางรีสอร์ท เค้าเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะครับ บางที ตี 1 ตี 2 ยังมีแขกที่นอนไม่หลับมาออกกำลังกายกันเลย

แต่ว่าเจ้าหน้าที่ ที่เค้าดูแลห้องฟิตเนส เค้าจะอยู่ให้บริการถึงแค่ 1 ทุ่มนะครับ หลังจากนั้นจะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยอยู่ให้บริการ แต่เค้าจะมีกล้องวงจรปิดไว้คอยดูแลเราแทน รวมถึงมีโทรศัพท์ไว้ให้หากเราต้องการอะไรก็สามารถโทรแจ้งเค้าได้ครับ จะมีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาให้บริการ





ห้องสปา Shine for Sheraton อันนี้เป็นสถานที่โปรดของบรรดาคุณแม่บ้านทั้งหลายจริงๆ เพราะว่าแม่บ้านของผมก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลบตัวเข้ามาใช้บริการทรีตเม้นต์ของที่นี่

เมื่อเข้ามานั่งปุ๊บจะมีบริการ Welcome drink พร้อมกับของทานเล่นนิดเหน่อยและผ้าเย็นให้สำหรับเช็ดหน้าเช็ดตา เพื่อเรียกความสดชื่น ก่อนที่จะเข้าไปในห้องทรีตเม้นต์อันแสนสงบ ซึ่งเค้ามีให้บริการทั้งหมด 12 ห้อง กันเลยทีเดียว



ห้องนี้เป็นห้องทรีตเมนต์แมบบสวีท ซึ่งภายในห้องนี้จะมีห้องซาวน่าให้ในตัวเลยล่ะครับ
แต่สำหรับห้องประเภทอื่นที่ไม่ได้มีซาวน่าในตัว เราสามารถไปใช้ห้องซาวน่าที่บริเวณห้องฟิตเนสได้ฟรีเช่นกันครับ


Shine Spa for Sheraton เค้าเปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00 - 21.00 น:





ห้องซาวน่าในตัว สำหรับห้องทรีตเมนต์แบบห้องสวีท




ไหนๆ รีสอร์ทก็ตั้งอยู่ติดกับชายหาดแล้ว ลงไปเดินเล่นที่ริมหาดหรือลงเล่นน้ำทะเล ก็ถือว่าเป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเช่นกันครับ




ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเข้าพักที่ เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา


  1. การบริการไม่ต้องพูดถึงครับ มาตรฐานเชอราตัน พนักงานทุกคนโปรมากๆ
  2. รีสอร์ทตั้งอยู่ติดกับชายหาดทำให้สะดวกมาก ถ้าต้องการเดินลงไปเล่นน้ำทะเล แต่หาดบริเวณนั้นอาจเม็ดทรายอาจจะไม่ได้ละเอียดมากนัก
  3. ภายในรีสอร์ทมีห้องอาหารรสชาติอร่อยให้ทานหลายแห่ง หลายสไตล์ ในราคาที่ไม่แพง ทำให้สามารถใช้ชีวิตพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ท ได้โดยไม่ต้องออกไปไหนเลย
  4. ภายในห้องพักสะอาด ตกแต่งได้สวย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  5. ชอบเตียงนอนของเชอราตันมากๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้วล่ะครับ นอนหลับสบายจริงๆ
  6. สัญญานอินเตอร์มีครอบคลุมทั่วรีสอร์ท และ สัญญานแรงมากๆ
  7. อาหารเช้าอร่อย และ มีให้เลือกหลากหลาย
  8. สระว่ายน้ำของรีสอร์ทใหญ่มากๆๆๆ ว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ
  9. ต้นไม้ ต้นหญ้า ภายในรีสอร์ทได้รับการดูแลดีมาก ภายในรีสอร์ทมีสีเขียวเต็มไปหมด ทำให้รู้สึกสดชื่น
  10. ในช่วงค่ำ ถ้าไม่มีลม อาจจะมียุงเยอะไปหน่อย แต่ก็ต้องทำใจครับ เพราะว่าภายในรีสอร์ท ตกแต่งด้วยต้นไม้ค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าคืนไหนลมแรงก็ได้ทั้งความเย็นสบาย และ ไม่มียุง




ราคาและการจองห้องพักที่เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา

ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 3,000 - 16,500 บาท
หมายเหตุ ราคาอาจมีการเปลี่ยนขึ้นกับช่วงวันและเวลาเข้าพัก


เช็คห้องว่างและราคาได้ที่นี่





เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา
1573 ถนนเพชรเกษม ตำบลชะอำ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 76120
โทร. 032-708-000
เว็บไซต์ : http://www.sheratonhuahin.com/th


แผนที่เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา
พิกัด GPS 12.665399,99.95459




บทความที่ได้รับความนิยม