<< Review Devasom Huahin Resort >>
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักซักแห่งที่ตอบโจทย์ให้กับการพักผ่อนที่แท้จริง ได้ใช้ชีวิตแบบ Slow Life จริงๆ ได้หลีกหนีความวุ่นวายจริงๆ และ อยากได้การบริการที่ประทับใจจริงๆ ผมขอแนะนำ เทวาศรม หัวหิน รีสอร์ท ไว้เป็นทางเลือกอันดับต้นๆ เลยครับ
ทริปเที่ยวหัวหินครั้งนี้ ได้มีโอกาสพักที่ เทวาศรม หัวหิน รีสอร์ท ซึ่งต้องยอมรับเลยครับว่าที่นี่เค้าเป็นรีสอร์ทที่ชัดเจนมากในเรืองคอนเซ็ปที่ต้องการให้ลูกค้ามาเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง
ใครมาพักที่นี่ขอแนะนำว่าคุณไม่ต้องเตรียมรองเท้ากีฬาเพราะว่าไม่มีห้องฟิตเนส ไม่ต้องมองหา Kids' Club หรือ ผับบาร์ เลยครับ ที่นี่คือสถานที่ ที่คุณควรเตรียมมาแค่กระเป๋าเสื้อผ้า และ หนังสือดีๆ ซักเล่มสองเล่ม ก็เพียงพอแล้ว และ เมื่อมาถึงที่นี่คุณก็ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง เปลี่ยนโหมดชีวิตของคุณใหม่ ให้มันช้าลง ลดระดับความเร่งรีบ อยู่ในสภาวะไร้ความกังวล ใช้ชีวิตให้สบาย และ ผ่อนคลายมากที่สุด
โอ้วๆๆๆ ผมโปรยคำนำเว่อร์ไปมั๊ยเนี่ย!!?? อิๆ ไม่เลยครับ เดี๋ยวติดตามชมกันครับว่าทำไม ผมถึงบรรยายซะที่นี่เหมือนดั่งสวรรค์ของผู้ที่กำลังมองหาความสงบอย่างแท้จริง
" ชื่อ เทวาศรม เป็นคำผสมระหว่าง เทวา และ อาศรม ซึ่ง มีความหมายว่า ที่อยู่ของเหล่าเทวดา หรือ คนดีๆ มาอยู่รวมกัน ทำให้ที่นี่มีแต่ความสงบสุข คำพูดบางส่วนจากเจ้าของรีสอร์ท ที่อุตส่าห์เดินมาพูดคุยต้อนรับพวกเราด้วยตัวเอง "
เริ่มจากบริเวณทางเข้าด้านหน้า จะมีลานจอดรถและเดินเข้าบริเวณล็อบบี้ได้เลย แบบสะดวกๆ กันเลยครับ พอจอดรถยังไม่ทันลงจากรถก็มีพนักงาน เดินมายืนรอต้อนรับ เตรียมยกสัมภาระให้ทันที
บริเวณพื้นที่ต้อนรับมีโซฟาให้นั่งพักจิบเครื่องดื่ม Welcome drink
ขับรถมาไกลๆ ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ กันก่อน
จากตัวล็อบบี้ มองออกไปที่สระว่ายน้ำ ก็สะดุดตา กับต้นเกด ซึ่งมีอายุร่วมร้อยปี ต้นเกดเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งลักษณะเด่นของต้นเกดที่นี่คือ การฟอร์มตัวของกิ่งใบที่ดูคล้ายกับรูปหัวใจ ซึ่งได้สอบถามกับทางรีสอร์ท เค้าแจ้งว่าไม่ได้มีการตกแต่งกิ่งก้านใดๆ เลย
ห้องพัก
หลังจากผ่านขั้นตอนการเช็คอินน์เรียบร้อยแล้วพวกเราก็ลงไปเดินชมบรรยากาศแป๊บนึง เพราะว่าพื้นที่ของรีสอร์ทมีขนาดไม่ใหญ่นัก ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากล็อบบี้ยาวลงไปถึงบริเวณริมชายหาด ก่อนที่จะขอเข้าไปชมห้องพักในแบบต่างๆ
ห้องพักของทางรีสอร์ทมีทั้งหมด 24 ห้อง และแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- Seaside Deluxe 8 ห้อง
- Seaside Suite 4 ห้อง / Devasom Grand 2 ห้อง
- Beach Villa 8 หลัง
- Beachfront Villa 2 หลัง
ห้องพักแบบ Seaside Deluxe และ Seaside Suite / Devasom Grand จะตั้งอยู่ที่อาคารหลังใหญ่ 3 ชั้น ซึ่งเป็นอาคารเดียวกับล็อบบี้ แต่ห้องพักจะอยู่บริเวณชั้น 2 และ ชั้น 3 ขนาดห้องกว้างถึง 50 ตารางเมตร มีด้วยกันทั้งหมด 14 ห้องด้วยกัน
จากตัวอาคารจะเห็นว่าแต่ละชั้นจะมีทั้งหมด 7 ยูนิต ซึ่งหากเริ่มจากทางซ้าย ห้องพักแบบ Seaside Deluxe จะอยู่ ยูนิตที่ 2,3,5,6 ห้องพักแบบ Seaside Suite จะอยู่ยูนิตที่ 1,7 ส่วน ห้องพักแบบ Devasom Grand จะอยู่ตรงกลาง ซึ่งมีแค่ 2 ห้องเท่านั้น ห้องชั้น 2 และ ชั้น 3
เดินขึ้นบันไดไปชมบรรยากาศห้องพักกันดีความครับ
ระหว่างเดินขึ้นห้องพัก มีความรู้สึกคล้ายๆ กับ ตัวเองกำลังย้อนกลับไปอยู่ในยุคสมัยรัชกาลที่ 6 เลยอะครับ เพราะว่าการออกแบบของที่นี่จะเน้นรูปแบบสถาปัตยกรรมย้อนยุคได้อย่างชัดเจน ทุกรายละเอียดจริงๆ
Seaside Deluxe
ห้องพักแบบ Seaside Deluxe มีขนาดความกว้าง 50 ตารางเมตร ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน
ห้องนอนกับห้องน้ำจะมีฉากเลื่อนกั้น
เห็นอ่างอาบน้ำแล้วอยากลงไปนอนแช่เลย
ห้องพักทุกห้องมี Free Wifi (สัญญานแรง), โต๊เขียนหนังสือ, mini bar ที่จัดให้ไว้เต็มที่และฟรีทั้งหมด, ทีวีพร้อมช่องดาวเทียม, เครื่องชงกาแฟ, ตู้นิรภัย, ฯลฯ
ด้านหลังของห้องพักเป็นระเบียงขนาดใหญ่ มองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน
Seaside Suite / Devasom Grand
เนื่องจากวันที่เราเข้าพัก ห้องพักแบบ Seaside Suite ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ด้านริมสุดของตัวอาคารทั้งฝั่งซ้ายและขวา เต็มหมด ก็เลยไม่ได้เข้าไปชมห้อง ก็เลยพาเข้ามาชมห้องพักแบบ Devasom Grand ซึ่งเป็นห้องที่พวกเราเข้าพักในครั้ง
ห้องพักแบบ Seaside Suite จะมีห้องนั่งเล่นแยกออกมา ตามลักษณะของห้อง Suite แต่ห้อง Devasom Grand จะไม่มีห้องนั่งเล่นนะครับ
ภายในห้องพักแบบ Devasom Grand มีพื้นที่ 60 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่กว่าห้องพักแบบเริ่มต้น 10 ตารางเมตร ซึ่งขอบอกเลยว่าห้องพักใหญ่ Elegant มากๆ
จากเตียงนอนจะหันปลายเตียงไปทางทะเล ซึ่งสามารถนอนมองท้องฟ้า ท้องทะเล ได้จากเตียงนอนเลย
ในตู้เย็นมีเครื่องดื่ม และ ขนมให้ อันนี้ฟรีทั้งหมดครับ มีเติมให้ทุกวัน
แต่สังเกตุดูมีแหว่งไปด้วยอันนึง อิๆ มันคือน้ำส้มครับ ถ่ายรูปไม่ทัน ลูกชายคว้าไปดื่มเรียบร้อยแล้ว
ภายในห้องพักมีโต๊ะเขียนหนังสือให้ ถูกใจมากๆ เพราะว่าเป็นคนที่ตัดเรื่องงานไม่ขาดถึงแม้จะเป็นวันหยุดพักผ่อน เนี่ยล่ะน๊าคนเรา
เข้ามาดูในห้องน้ำ ความรู้สึกเหมือนหลงยุคไปเป็นคุณชายในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 ยังไงไม่รู้นะครับ
Beach Villa & Beachfront Villa
เดินลงจากตัวอาคารมาดูห้องพักแบบ Beach Villa กับ Beachfront Villa กันมั่งครับ
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมผู้ออกแบบรีสอร์ทแห่งนี้มากๆ เลยครับ เพราะว่าเค้าวาง layout ได้อย่างลงตัวมากๆ Villa ทุกหลังสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ รวมถึงห้องพักที่อยู่บนตัวอาคาร ก็สามารถออกมานั่งชมวิวทะเลได้จากระเบียงห้องพักทุกห้อง
ห้องพักแบบ Villa จะตั้งอยู่ตรงบริเวณสระว่ายน้ำกลางของรีสอร์ท
ซึ่งในส่วนของสระว่ายน้ำนี่ก็ถือว่าออกแบบได้ดีเลยครับ มีส่วนตื้น ส่วนลึก ไล่ระดับกันลงไปถึงสุดพื้นที่ เกือบติดกับชายหาด เด็กเล็กๆ ก็สามารถเล่นน้ำได้ไปพร้อมๆ กับผู้ใหญ่ แถมยังมีจาคูซซี่นวดหลังไปด้วย มองดูท้องฟ้า ดูทะเลไปด้วย
ห้องพักที่เป็นแบบ Beachfront Villa จะมีแค่ 2 หลัง ซึ่งอยู่ติดกับทะเล
เข้ามาชมบรรยากาศภายในกันมั่งครับ
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปด้านใน ได้เห็นการตกแต่งที่ลงตัว เป็นสไตล์ย้อนยุค ที่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง วัสดุ อุปกรณ์ที่ลงตัว
แต่ถึงแม้บรรยากาศของตกแต่งทั้งหมดจะเป็นแบบย้อนยุค แต่ทางรีสอร์ท ก็ไม่ลืมที่จะช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ให้กับผู้เข้าพักด้วยอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ไว้บรรเลงเพลงเบาๆ ขับกล่อม ควบคู่กันไป
เข้ามาชมบรรยากาศภายในห้องน้ำกันมั่งครับ
ทั้งก๊อกน้ำ อ่างล้างหน้า กระจกส่องหน้า และ อ่างอาบน้ำ ทุกอย่างดูแม๊ชกันไปหมด
หลังจากชมบรรยากาศภายในห้องพักทั้งหมดแล้ว ก็ออกมาเดินเล่น ดูโน่น ดูนี่กันอีกซักหน่อย ก่อนเข้าห้องพักผ่อน
สระว่ายน้ำใหญ่ด้านใน เป็นสระเกลือ ทำให้ไม่รู้สึกระคายผิว
บริเวณสนามหญ้า ขนาดย่อมๆ สามารถลงเดินเล่นได้ในช่วงเย็น เพราะว่าบรเวณนี้จะร่ม เนื่องจากพระอาทิตย์ จะไปตกบริเวณด้านหน้าของรีสอร์ท ซึ่งตัวอาคาร 3 ชั้นจะบังแดดไว้
Gift shop เล็กๆ น่ารัก มีของกระจุ๊ก กระจิ๊ก ให้ซื้อไว้เป็นของที่ระลึก หรือ ของฝากก็ได้
ดึกแล้ว ขอไปงีบ ก่อนครับ เดี๋ยวเช้าพาไปชมไลน์อาหารเช้ากันต่อ
อาหารเช้า และ ห้องอาหาร
ตื่นแต่เช้ามานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นที่บริเวณด้านหลังระเบียงห้อง
อดใจไม่ได้ที่จะเดินลงไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่บริเวณริมชายหาด
ที่ เทวาศรม หัวหิน รีสอร์ท จะมีห้องอาหารให้เพียงแห่งเดียวนะครับ เพราะว่าห้องพักที่นี่มีไม่มาก ห้องอาหารนี้ชื่อว่า "Deva Bistro" ซึ่งในช่วงเช้าก็ให้บริการอาหารเช้า หลังจาก 10 โมง ไปแล้วจะเปิดให้บริการอาหารกลางวัน และ อาหารเย็น รวมถึงเครื่องดื่มประเภทไวน์ ให้ได้จิบกันไป ชมวิวท้องฟ้า ท้องทะเลกันไป เพราะว่าที่ห้องอาหารนี้จะมีเป็นแบ่งเป็น 2 ส่วน คือแบบในห้องแอร์ และ บริเวณด้านนอกหรือ Open air
เข้าไปทานอาหารกันดีกว่าครับ
อาหารเช้าเค้าเปิดให้เริ่มทานได้ตั้งแต่ 6.30 น. เลยล่ะครับ
ชอบรายละเอียดการตกแต่งของทางรีสอร์ทมากๆ ครับ
เค้าจะมีดอกกล้วยไม้ ประดับตามกระถางต่างๆ ดูแล้วชื่นตา ชื่นใจ
ใครที่อยากทานอาหารพร้อมกับรับแสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้าก็นั่งทานที่บริเวณด้านนอกได้ครับ
ส่วนใครอยากนั่งเย็นๆ ก็เข้ามาในห้องแอร์ครับ
เดินสำรวจดูไลน์อาหารกันเช้ากันก่อนครับ
อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกพอสมควรครับ หลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง และ อาหารเช้าที่ทานง่ายๆ อย่างโจ๊ก หรือน้ำเต้าหู้ กับ ปาท่องโก๋
สลัดผักสดมากๆๆ
สตูหมูอร่อยสุดๆ ตักไปสองรอบเลย เนื้อหมูก็นุ่มมากๆ ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวมากเลย
ข้าวผัด กับ ผัดซีอิ๋ว ก็อร่อยครับ
โจ๊กไก่ กับ น้ำเต้าหู้
หรือ จะเป็นอาหารเช้าแบบฝรั่งก็มีครับ แต่พวกเราไม่ได้ทานเลย เพราะว่าเจออาหารไทยอร่อยๆ ไปก็อิ่มซะแล้ว
ตักสลัดมาจานนึง ไม่พอต้องไปตักเพิ่ม
อันนี้เมนูเด็ดเลยครับ Egg Benedict อร่อยสุดยอดเลย ไม่ได้เขียนเยินยอเกินเหตุนะครับ นี่คือ Egg Benedict ที่รู้สึกว่าอร่อยเป็นอันดับต้นๆ จากที่เคยทานมาเลยครับ อันดับ 1 ผมขอยกให้ Sripanwa Phuket อันดับ 2 The Naka Phuket ส่วนอันดับ 3 ที่ใครๆ บอกว่า ที่ Renaissance Phuket ผมก็ยังว่าสู้ที่นี่ไม่ได้ ผมเลยขอมอบอันดับที่ 3 ให้กับที่นี่ละกันนะครับ
ผมชอบตรงซอสที่ราดบนเนื้อไข่ ที่ยังเป็นลักษณะของน้ำซอสทานแล้วรู้สึกว่าเป็นซอสเหลวๆ ไม่ได้เป็นซอสเหนียวๆ แห้งๆ เหมือนบางโรงแรมทำน่ะครับ
อันนี้ก็เด็ดครับ คือทานแล้วนึกถึงสมัยเด็กๆ ตื่นมาตอนเช้า ทานเท่านี้ก็อร่อยสุดยอดแล้ว
ในส่วนอาหารมื้อเย็น มื้อค่ำ ทางรีสอร์ท ก็มีเมนูเด็ดๆ หลายเมนูครับ
เดี๋ยวดูบางส่วนที่เราทานกันนะครับ
สเต๊กปลาแซลมอนคู่กับสเต๊กปลากะพง (Duofish) อร่อยมากๆ ไม่มีกลิ่นคาวปลาเลย ทานคู่กับซอสยิ่งรู้สึกเพิ่มรสชาติความอร่อย
ข้าวอบสับปะรด รสชาติกลมกล่อมครับ มีกลิ่นหอมของสับปะรด เม็ดข้าวกำลังดี ไม่แข็ง ไม่นิ่ม เกินไป เหมาะสำหรับนำเอามาผัดเป็นข้าวผัดมากๆ
สะเต๊ะไก่ มีเครื่องเคียงเป็นผักและขนมปัง ทานคู่กับน้ำจิ้มสะเต๊ะ
กล้วยหอมทอด หน้าตาแปลกดี ลักษณะเป็นแป้งเคลือบกล้วยไว้ด้านใน ทำเป็นลูกกลมๆ ทานคู่กับไอศครีมก็อร่อยไปอีกแบบ
นอกจากนั้นยังมีเครื่องดื่ม Virgin Sunset มาทานตบท้ายให้รู้สึกชื่นใจ
สำหรับเมนูแนะนำอื่นๆ ที่สอบถามกับทางรีสอร์ท ก็มี
สเต๊กปลากะพงซอสขิง , ข้าวผัดแกงเขียวหวานปลาสลิด , ข้าวแช่ชาววัง
มีอะไรทำบ้างที่รีสอร์ท
ที่ เทวาศรม หัวหิน รีสอร์ท จะว่าไปก็ไม่ได้เน้นกิจกรรมอะไรมากมายนะครับ ส่วนใหญ่แล้ว ให้นึกว่าเรามาพักผ่อน ตากอากาศ ชาร์ตพลัง ซึ่งจะถือว่าตรงกับจุดประสงค์ของการออกแบบที่พักที่นี่สุดละครับ
แต่ถ้าจะหาอะไรทำก็พอมีบ้างครับ
อย่างเช่น เข้าไปนั่งเล่น อ่านหนังสือในห้องสมุดของทางรีสอร์ท ซึ่งดูๆ แล้วออกแนวเป็นพิพิธภัณฑ์สะสมของเก่า ย่อมๆ เลยนะครับ เพราะว่ามีทั้งเปียนโนเก่า เครื่องเสียงรุ่นคุณปู่ กล้องส่งทางไกลแบบโบราณ ฯลฯ
โต๊ะทำงาน แต่น่าจะเป็นการผสมผสานกับยุคปัจจุบันละครับอันนี้ เพราะว่ามีการใช้โน๊ตบุ๊คด้วย
เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบโบราณ
กล้องส่องทางไกล
หรือหากใครชอบอ่านหนังสือก็มีหนังสือประเภทต่างๆ ให้ได้หยิบไปนั่งอ่านกัน
หรือจะไปเดินเล่นริมชายหาด
บริเวณด้านหลังรีสอร์ทจะมีบันไดเดินลงไปยังบริเวณชายหาด
ชายหาดที่นี่อาจจะไม่กว้างมากนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับให้ได้เดินเล่นชิลล์ๆ
ว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ ที่มีให้มากถึง 3 สระ มีการออกแบบให้เป็นแบบเล่นระดับไปจนจรดชายหาด
หรือจะนอนหลบแดดอ่านหนังสือซักเล่มใต้ต้นเกด ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของรีสอร์ทแห่งนี้เลยล่ะครับ
แต่ถ้าใครต้องการจะไปเที่ยวในตัวตลาดหัวหิน ทางรีสอร์ทเค้ามีรถ Shuttle bus ให้บริการวันละ 5 รอบนะครับ ซึ่งตารางจะเป็นตามนี้
ออกจากรีสอร์ท ไป ตลาดหัวหิน
11.00 , 14.00 , 18.00
กลับจากตลาดหัวหิว มาที่รีสอร์ท
14.30 , 18.30
เป็นไงครับสำหรับการพักผ่อนที่ เทวาศรม หัวหิน รีสอร์ท เรียกว่าใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ท นอนพักผ่อนบนเตียงหนานุ่มสบายๆ , ทานอาหารอร่อยๆ , ว่ายน้ำในสระว่ายน้ำแบบเกลือที่ไม่ระคายผิว , อ่านหนังสือในห้องสมุด หรือ ตามมุมต่างๆ ใต้ร่มไม้ เท่านี้ผมว่าก็ถือว่ามีความสุขมากๆ แล้ว สำหรับการเข้าพักที่ เทวาศรม หัวหิน รีสอร์ท แห่งนี้
เทวาศรม หัวหิน รีสอร์ท เป็นบูติครีสอร์ทขนาดย่อมๆ ออกแบบในสไตล์ย้อนยุค ซึ่งกวาดรางวัลต่างๆ มามากมายๆ จากหลายๆ สถาบัน
สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับ เทวาศรม หัวหิน รีสอร์ท
- การออกแบบสวย ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ลวดลายพื้น ผนัง ระแนง ประตู อ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ ทุกอย่างดูเข้ากันไปหมด
- พนักงานบริการดีมาก เป็นกันเอง ตื่นเช้ามา ได้ยินพนักงานทักคำแรก "เมื่อคืนนอนหลับสบายมั๊ยคะ?" รู้สึกประทับใจนะครับ ปกติไม่ค่อยได้ยินพนักงานที่จะมีคำถามที่ใส่ใจการพักผ่อนเราขนาดนี้ นอกจากพนักงานแล้ว เจ้าของก็ยิ้มแย้ม ต้อนรับ ทักทาย ลูกค้า อย่างเป็นกันเอง
- Layout ของตัวรีสอร์ท ที่ทำออกมาได้ดี คือ ทุกห้องพัก สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากตัวห้องพัก
- จำนวนห้องพักไม่มาก ไม่ดูวุ่นวาย และ การสร้างบรรยากาศของทางรีสอร์ท ทำให้ผู้เข้าพัก เปลี่ยนโหมดของตัวเองให้รู้สึกช้าลง ได้อย่างอัตโนมัติ ทำให้การเข้าพักรู้สึกผ่อนคลาย
- อาหารอร่อยมากๆๆๆๆๆ
- ด้านหลังของรีสอร์ทติดหาด ทำให้สะดวกในการเดินเล่นริมชายหาด
- สัญญานอินเตอร์เน็ตแรง ใช้งานได้คล่องปรื๊ดๆๆ
- ถึงแม้ตัวรีสอร์ทจะไม่ได้อยู่ในตัวเมืองหัวหิน แต่ทางรีสอร์ทก็มีรถรับส่งให้บริการฟรี ถือว่าช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้ามากๆ เพราะปกติถ้าขับรถเข้าไปในตัวเมืองเอง จะหาที่จอดรถยากมากๆ แถมยังมีรถรอรับกลับอีกต่างหาก
- สระว่ายน้ำเป็นแบบเกลือทำให้ว่ายน้ำแล้วไม่รู้สึกคัน และ มีสระเด็กให้เจ้าตัวเล็กได้เล่นด้วย ถึงแม้จะไม่มี Kids' Club แต่ก็ไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไปเลย แค่สระว่ายน้ำกับสนามหญ้าก็เพียงพอแล้ว ดีซะอีกครับ เด็กๆ จะได้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ใน kids' club ได้ออกมาวิ่งเล่น
- สุดท้ายเลย ต้องบอกว่าได้รับความสุขจากการเข้าพักที่นี่มากๆ ครับ
เช็คราคา และ การจองห้องพัก
ห้องพักราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 4,900 - 9,000 บาท
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงวันที่เข้าพัก
(เช็คห้องว่างและราคาได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ ยืนยันการจองได้ทันที)
ที่อยู่ 1446 / 23-31 ถ. เพชรเกษม (กม.207) ชะอำ-หัวหิน เพชรบุรี 76120
โทรศัพท์: +66 (0) 32-442789 โทรสาร: +66 (0) 32-442795
อีเมล์: [email protected] เว็บไซต์: www.devasom.com
เทวาศรมหัวหินรีสอร์ท ตั้งอยู่บนชายหาดส่วนตัวระหว่างอำเภอชะอำและหัวหิน ใกล้กับถนนเพชรเกษม กม.207 จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
แผนที่ เทวาศรม หัวหิน รีสอร์ท
พิกัด GPS 12.660493,99.957493