โรงแรมที่พักราคาโปรโมชั่นใน ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี





ที่พักแนะนำในหัวหิน




โรงแรมที่พักราคาโปรโมชั่นใน ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี
ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ

พักผ่อน 3 วัน 2 คืน ริมหาดหัวหิน @ หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา

<< Review Hua Hin Marriott Resort and Spa >>


หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา... สวรรค์แห่งใหม่ริมหาดหัวหิน

พวกเราได้มีโอกาสไปพักผ่อนที่นี่ 3 วัน 2 คืน ซึ่งต้องยอมรับว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน

ความสุขที่ได้รับจากการพักผ่อนครั้งนี้ ทำให้รู้สึกได้ชาร์ตพลังอย่างเต็มที่จริงๆ



จากบริเวณด้านหน้ารีสอร์ท มองเห็นตัวอาคารที่ดูแล้วแตกต่างจาก การออกแบบของแมริออท แบบเดิมๆ โดยสิ้นเชิง... 

เพราะที่แมริออท หัวหิน เค้าจะเน้นรูปแบบที่ดูโมเดิร์น ผสมผสานกับกลิ่นอายย้อนยุคแนวโคโลเนียลของเมืองหัวหิน ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศที่มีบุคลิคค่อนข้างชัดเจนในตัวเอง..


ภายในรีสอร์ทจะมีการตกแต่งลวดลายด้วยดอกพิกุล ซึ่งดอกพิกุลเป็นดอกไม้ที่มีความหมายว่า ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง และ ความโชคดี


เริ่มกันตั้งแต่บริเวณล็อบบี้ ที่เน้นความโปร่ง โล่ง สบาย 
ด้วยการทำหลังคาที่สูง และ ใช้ประตูกระจกโดยรอบ ทำให้รู้สึกโปร่ง ไม่อึดอัด



เพดาน ล็อบบี้ ถูกเจาะเป็นลักษณะของดอกพิกุล


ตามผนังเสา มีการเจาะเป็นลวดลายของดอกพิกุลเช่นกัน..

จริงๆ มีหลายจุดที่ถูกตกแต่งเป็นลวดลายของดอกพิกุล ยังไงถ้าสนใจก็ลองสังเกตุกันดูนะครับ


นั่งรอเช็คอินน์ซักพัก ก็มีเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับ ผ้าเย็นมาเสิร์ฟ 
ได้เช็ดหน้าเช็ดตา ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลย..





หลังจากเช็คอินน์เสร็จแล้ว ก็เตรียมตัวไปสำรวจห้องพักกันต่อเลยดีกว่าครับ



ห้องพัก


อาคารห้องพักของที่ หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา จะมีทั้งหมด 5 อาคารด้วยกัน

แต่การนับเลขอาคารของที่นี่เค้าจะไม่ได้เริ่มจากเลข 1
ซึ่งเหมือนกับลิฟท์ ที่เราใช้ในการขึ้นไปบนห้องพัก เค้าก็ไม่ได้เริ่มจากเลข 1 เช่นกัน

อย่างเช่น อาคารนี้ ซึ่งเป็นอาคารเดียวกับล็อบบี้ จริงๆ แล้วอาคารนี้คือ อาคารที่ 1 แต่ถ้าจะเรียกตามที่นี่ เราต้องเรียกว่าอาคารนี้คืออาคาร 2

หลังจากนั้นก็นับต่อไปเป็น อาคาร 3 ถึง อาคาร 6

สำหรับอาคาร 5 กับ 6 จะเป็นอาคารที่อยู่หน้าหาด


ที่ตัวอาคารเอง จะมีชื่อเป็นชื่อดอกไม้ทั้งหมด อย่างอาคารที่พวกเราพัก ชื่อว่าอาคารพิกุล


ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 322 ห้อง โดยแบ่งออกเป็น 8 ประเภท ดังนี้
  1. Superior
  2. Deluxe Sea View
  3. Deluxe Pool Terrace
  4. Premium Sea View
  5. Junior Suite
  6. Garden Jacuzzi Suite
  7. Ambassador Suite
  8. Presidential Suite


ห้องพักส่วนใหญ่จะมีลักษณะ layout และ การตกแต่งที่คล้ายกัน แต่จะต่างกันตรงตำแหน่งของตัวห้องพัก ซึ่งจะอยู่ชั้นล่างติดกับสวน ชั้นล่างติดกับสระว่ายน้ำ หรือ ตั้งอยู่ชั้นบนซึ่งจะมีแต่ระเบียงให้นั่งเล่นหลังห้องพักเท่านั้น

ห้องพักที่จะมีลักษณะแตกต่างออกไป ที่พวกเราได้เข้าไปชมคือห้องแบบ Ambassador Suite และ ห้อง Presidential Suite ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่มากๆๆ

ตามไปดูภายในห้องพักกันเลยดีกว่าครับ



ห้องพักแบบ Superior, Deluxe Sea View , Deluxe Pool Terrace และ Premium Sea View
ห้องพัก ทั้ง 4 ประเภทจะมีขนาดและลักษณะการตกแต่งที่เหมือนกัน
ต่างกันตรงที่ตำแหน่งของตัวห้อง และ ที่ตั้งของตัวอาคาร

ห้องนี้เป็นแบบเตียง Twin แต่ดูแล้วเตียงค่อนข้างใหญ่ นอนสบาย




ส่วนห้องถัดมาเป็นห้องเตียง King Size


ส่วนตัวผมชอบโทนสีภายในห้องมากๆ เพราะว่าดูอบอุ่น สบายตา และ รู้สึกผ่อนคลายมากๆ







Amenities ภายในห้องน้ำจะเป็นของ Thann ทั้งหมด ตามมาตรฐานของแมริออท




สังเกตุภาพด้านบน กับ ภาพด้านล่างต่างกันตรงไหน


ต่างกันตรงที่ภาพบนตรงอ่างล้างหน้ามีกระจก
แต่ภาพล่างไม่มี
เป็นเพราะว่ากระจกส่องหน้าตรงอ่างล้างหน้า สามารถถูกเลื่อนเก็บไปได้ครับ






พื้นที่สำหรับนั่งทำงาน พร้อม FREE WIFI สัญญานแรงสะใจ




ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ชั้น 2 ด้านหลังจึงเป็นระเบียงสำหรับให้ออกไปนั่งเล่นเฉยๆ





ถ้าแต่เป็นห้องแบบ Pool Access ด้านหลังจะสามารถเดินลงสระว่ายน้ำได้เลย






ส่วนบางห้องจะอยู่ชั้นล่างสุดแต่ด้านหลังไม่สามารถเดินลงสระว่ายน้ำ ก็จะเป็นห้อง Garden ซึ่งจะมีพื้นที่สวนด้านหลังให้เดินเล่น.. แต่ห้องลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำใหญ่อยู่แล้ว..




ห้องพักอีกระดับนึงจะเป็นห้อง Suite ซึ่งมีทั้ง 4 ประเภท คือ Junior Suite, Garden Jacuzzi Suite, Ambassador Suite, Presidential Suite

ซึ่งการเข้าพักครั้งนี้พวกเราได้มีโอกาสเข้าไปชมบรรยากาศภายในห้อง Ambassador และ Presidential Suite แต่ Junior Suite กับ Garden Jacuzzi Suite ไม่มีห้องพักว่างให้เข้าไปชม...


ห้องพักแบบ Ambassador Suite

ห้องพักแบบ Ambassador Suite เป็นห้องพักที่ค่อนข้างกว้างมีพื้นที่รวม 108 ตารางเมตร
ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่นก่อน



ห้องพักแบบ Suite จะใช้ทีวีจอใหญ่ขนาด 55 นิ้ว แต่ถ้าเป็นห้องประเภท Superior และ Deluxe จะเป็นทีวีขนาด 48 นิ้ว



ภายในห้องน้ำจะใช้พื้นที่เป็นหินอ่อนทั้งหมด ดูแล้วหรูหรามากๆ

จากตัวห้องนอนมีระเบียงให้สามารถชมวิวทะเลได้อย่างชัดๆ เพราะว่าห้อง Suite ส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่อยู่ในอาคารที่ติดกับตัวชายหาด




ห้อง Presidential Suite

ห้องประเภทนี้เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วยขนดพื้นที่ 156 ตารางเมตร
ทำให้รู้สึกได้ถึงความโอ่อ่า หรูหรา มากๆ



ขนาดภายในห้องนอน จะมีขนาดใกล้เคียงกับห้องแบบ Ambassador Suite



ภายในห้องน้ำ จะกว้างกว่า และ มีอ่างล้างหน้าให้ 2 ชุด
รวมถึงมีอ่างอาบน้ำแบบจาคูซซี่ ให้ได้นอนแช่สบายๆ




ภายในตัวห้องน้ำ มีห้องเสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet


เดินออกมาตรงบริเวณพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งต้องบอกว่า กว้างมากๆๆๆๆๆ




ภายในห้องนั่งเล่น มีห้องน้ำเล็กๆ แยกไว้ให้อีก 1 ห้อง


ส่วนตัวผมคงเลือกนั่งที่บริเวณระเบียงเนี่ยแหละครับ
เพราะว่าบรรยากาศฟินน์สุดๆ 
ห้องพักประเภทนี้เป็นห้องพักที่อยู่ติดกับชายหาด ทำให้สามารถมองเห็นทะเลได้อย่างเต็มตาที่สุด



พาชมห้องพักกันครบแล้ว เดี๋ยวพาไปชมและชิมกันที่ห้องอาหารของรีสอร์ทกันต่อเลยครับ



อาหารเช้า และ ห้องอาหารภายในรีสอร์ท

มาหัวหินทีไร ต้องตื่นแต่เช้าทุกที
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ถ้าอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ แนะนำว่าให้ออกมายืนริมหาดก่อน 6.30 น.


ช่วงเช้าๆ จะมีพระสงฆ์เดินบิณฑบาต
ใครอยากตักบาตก็อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ล่ะครับ



6.30 น. พระอาทิตย์ขึ้นมาสาดแสงอรุณตามนัด


ช่วงนี้ก็เดินหามุมโน้นมุมนี้เก็บภาพไปเรื่อยๆ
บริเวณนี้เป็นบรรยากาศจาก Pool Bar


มุมจากสระว่ายน้ำใหญ่


สไลเดอร์อันนี้เล่นสนุกมากๆ


หลังจากเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อย ก็แวะเข้าไปชมบรรยากาศของห้องอาหารเช้ากันต่อเลยละกันครับ

อ้อก่อนเข้าไปชมห้องอาหารเช้า เดี๋ยวเรามาดูกันก่อนครับว่าห้องอาหารของที่ หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา มีทั้งหมดกี่แห่ง


ห้องอาหารและบาร์ มีทั้งหมด 5 แห่งด้วยกัน
  1. Amber Kitchen
  2. Big Fish
  3. Siam Bakery
  4. Pool Bar
  5. Lobby Lunge & Bar

การเข้าพักครั้งนี้พวกเราได้ใช้บริการเกือบครบเลย ขาดแต่ Pool Bar เท่านั้นเอง
เพราะตลอด 3 วัน 2 คืน พวกเราไม่ได้ออกจากรีสอร์ทเลย




Amber Kitchen

Amber Kitchen เป็นห้องอาหารที่ให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายมาก
หลังจากนั้น ที่ห้องอาหารแห่งนี้จะเปิดให้บริการอาหารปกติ ซึ่งเป็นอาหารไทย และ อาหารนานาชาติ ตั้งแต่มื้อกลางวัน จนถึงมื้อค่ำ


ผมเข้ามาแต่เช้ายังไม่มีลูกค้าเข้ามา ก็เลยมีเวลาเก็บภาพไปเรื่อยๆ
เชฟกำลังเตรียมอาหารกันอย่างขะมักขะเม่น



กลิ่นไส้กรอกอิสานที่กำลังปิ้งอยู่เตาหอมกรุ่น ไปทั่วห้องอาหารเลยทีเดียว



มาตรฐานของแมริออททุกที่ จะเป็นคล้ายๆ กันตรงที่ความอลังการของอาหารเนี่ยแหละครับ มีให้เลือกเยอะมาก และ รสชาติอร่อยสุดๆ





มีซุ้มน้ำมะพร้าว ซึ่งจะมีคนคอยยืนปลอกมะพร้าวให้ตรงนั้นเลย

ตื่มน้ำมะพร้าวสดๆ ใหม่ๆ เย็นชื่นใจเลย



เก็บภาพไปซักพัก ก็ขอลุยเลยละกันครับ

เดินไปซุ้มก๋วยเตี๋ยวก่อนเลย เพราะว่าดูน่าทานมากๆ
รสชาติอร่อยมากเช่นกัน


หลังจากนั้นก็ตักมาอีกเยอะเลยครับ แต่ไม่ทันได้เก็บภาพละครับ


ห้องอาหาร Amber Kitchen จะมีพื้นที่ให้บริการที่เป็น Outdoor ด้วยนะครับ
สำหรับคนที่ชอบนั่งสูดอากาศบริสุทธิ์


นั่งทานอาหารเช้าในสวนดอกไม้ บรรยากาศดีจริงๆ




มาต่อกันที่มื้อกลางวัน ที่เดิมครับ ที่ห้องอาหาร Amber Kitchen










ปิดท้ายกันด้วยอาหารหวาน
โอ้ย ท้องจะระเบิด อร่อยทุกอย่าง ทานจนเกลี้ยงเลย..





อิ่มจากมื้อกลางวัน ขอเดินเล่นชมบรรยากาศสวยๆ ภายในรีสอร์ทกันซักแพร๊บ เดี๋ยวไปทานเครื่องดื่มเบาๆ ที่ Lobby Lounge กันต่อ









ที่บริเวณล็อบบี้ของรีสอร์ท ได้มีการออกแบบให้มีฟังค์ชั่นมากขึ้น คือใช้เป็นที่นั่งเล่น หรือ นั่งจิบเครื่องดื่มชิลล์ๆ ที่สามารถสั่งมาดื่มได้จาก Lobby Lounge





พอดีเราเป็นสมาชิกแมริออท ก็เลยได้ Voucher เครื่องดื่มมาทานฟรีๆ 2 แก้ว



ถ้าเป็นช่วงเย็นๆ เราสามารถนำเครื่องดื่มมานั่งจิบที่บริเวณด้านนอกล็อบบี้ก็ได้ครับ
บรรยากาศดีมากๆ เลยล่ะครับ




เดินออกจากด้านหน้าล็อบบี้เลี้ยวซ้ายไปต่อกันที่ Siam Bakery 
ซึ่งตรงนี้จะเป็นร้านเบเกอร์รี่ ที่มีของว่างพร้อมเครื่องดื่มอร่อยให้เลือกทานเยอะเลย


เนื่องจากตัวร้าน Siam Bakery ตั้งอยู่ตรงบริเวณด้านหน้ารีสอร์ท และ อยุ่ติดกับริมถนน หากใครขับรถผ่านเส้นนี้ ก็สามารถแวะเข้าไปนั่งทานเบเกอร์รี่และเครื่องดื่มได้นะครับ เพราะเหตุผลที่ทางรีสอร์ทเค้าวางตำแหน่งร้าน Siam Bakery ไว้ที่ตรงนี้ก็เพราะต้องการให้ลูกค้าที่ไม่ได้พักในรีสอร์ท สามารถเข้ามาใช้บริการได้สะดวก ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดที่ต้องเดินผ่านพื้นที่รีสอร์ทเข้าไป



เมนูเครื่องดื่มของที่นี่เค้าจะเน้นตั้งชื่อเป็นชื่อของถนนหรือซอยที่มีชื่อเสียงในหัวหิน

เริ่มจากเครื่องดื่ม Smooties

 

ซ้าย : เพชรเกษม มีส่วนผสม อโวคาโด้ โยเกิร์ต ลิ้นจี่ และ น้ำผึ้ง
ขวา : ซอย 5 มีส่วนผสม สัปปะรด กล้วย นมถั่วเหลือง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และ น้ำผึ้ง


ซอย 94 มีส่วนผสม สตรอเบอร์รี่ ราชเบอร์รี่ โยเกิร์ต นม และ น้ำผึ้ง


โดนัทชิ้นใหญ่มาก


 
ซ้าย : บราวด์นี่
ขวา : แครอทชีสเค้ก



 

ซ้าย : มาร์เบิ้ลเค้ก
ขวา : บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก แต่อันนี้มีไฮไลท์คือเค้าใส่กะทิผสมเข้าไปด้วยทำให้มีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างจากบลูเบอร์รี่ชีสเค้กที่อื่นๆ อร่อยมาก ต้องลอง..



ภายในร้านตกแต่งได้สวยมาก




จบจากมื้ออาหารว่างที่ห้องอาหาร Siam Bakery เรียบร้อยแล้ว ก็พักผ่อน กันก่อน เดี๋ยวช่วงเย็นไปต่ออาหารที่ห้องอาหาร BIG Fish ซึ่งเป็นห้องอาหารที่อยู่ติดกับทะเล บรรยากาศดีมากๆ


ถึงมื้อเย็น พวกเราเดินลัดเลาะตามทางเพื่อมุ่งหน้าสู่ร้าน BIG Fish ...

สังเกตุเส้นทางภายในรีสอร์ท เจ้าตัวเล็กสามารถเอาจักรยานคันโปรดไถไปได้ตลอดตั้งแต่ประตูห้องนอน นั่นหมายความว่าที่นี่เค้าได้จัดทำเส้นทางไว้เผื่อให้ผู้ที่ใช้ Wheel Chair ได้เดินทางไปไหนภายในรีสอร์ทได้อย่างสะดวก อีกด้วยนะครับ

ก่อนจะไปถึงห้องอาหาร BIG Fish พวกเราต้องผ่าน Pool Bar ซึ่งเป็นห้องอาหารที่เปิดโล่ง หันหน้าออกทะเล เพื่อรับลมทะเลขณะจิบเครื่องดื่มเย็นๆ




ภายในห้องอาหาร BIG Fish จะออกแบบให้กำแพงเป็นกระจกบานใหญ่ รอบด้าน ทำให้สามารถมองเห็นบรรยากาศของท้องทะเลได้อย่างชัดเจน เพื่อที่จะได้เข้ากับเมนูอาหารที่เน้นเมนูอาหารทะเลเป็นหลัก


ยามเย็นจิบไวน์ ชมวิวทะเล ฟินน์สุดๆ ละครับ..



เดี๋ยวไปเดินสำรวจกันซักหน่อย

ซุ้มนี้เป็นอาหารทะเลสดๆ ซึ่งจะนำมาตั้งเฉพาะในช่วงเย็น ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม 
โดยมีชื่อเรียกว่า Catch Of the Day
คอนเซ็ปก็คือ ในแต่ละวันจะไม่มีใครรู้ว่า จะมีอะไรมาวางตรงนี้เพื่อเอาไปปรุงอาหารบ้าง
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่า ชาวประมง ซึ่งเป็นชาวบ้านที่หาปลาอยู่ในระแวกนั้น เค้าจะจับอะไรมาได้บ้าง
ทางรีสอร์ทจะรับซื้อเอาไว้ แล้วมาใส่ไว้ในกระบะนี้ และนั่นก็คือที่มาของชื่อ Catch Of the Day นั่นเอง

หลังจากนั้นลูกค้าก็สามารถมาบอกให้เชฟ นำอาหารทะเลเหล่านี้ไปปรุงเป็นอาหารอะไรก็ได้ที่อยากทาน ซึ่งในเมนูจะเขียนไว้แค่ว่าเมนู Catch Of the Day แต่จะไม่มีราคาบอกไว้ว่าเท่าไหร่ เราจะรู้ราคาก็จนกว่าเราจะสั่งเมนูนั้นไปแล้วนั่นเอง

จุดเด่นที่เห็นได้ชัดเลยคือ อาหารทะเลที่วางอยู่ตรงนี้ เราสามารถมั่นใจได้เลยว่าเป็นอาหารที่สดใหม่ทุกวัน



เรามาเริ่มจาก Appetizers กันก่อนเลยดีกว่าครับ



Spicy Green Pea Soup เป็นซุปถั่วเขียวซึ่งรสชาติอร่อยมากๆ มีความเผ็ดนิดๆ เพราะว่าเค้าปั่นถั่วเขียวเข้ากับพริกขี้หนูเม็ดเล็กๆ จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน โดยปกติตัวซุปจะค่อนข้างข้น แต่ถ้าใครชอบใสหน่อย ก็สามารถเติมน้ำมะพร้าวอุ่นเพิ่มเข้าไปได้ เพราะว่าเค้าจะเสิร์ฟมาคู่กับน้ำมะพร้าวอยู่แล้ว








ตามมาด้วย Main Courses

 
เมนูแรกมาเสิร์ฟแล้วล่ะครับ ชื่อว่า Seafood Tower ซึ่งรวมสารพัดอาหารทะเล มีกุ้ง กั้ง หอยนางรม หอยแมลงภู่ หอยเชลล์ แซลม่อน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดมาก ทานได้ทั้งคนไทยและฝรั่ง


จุดเด่นในการทำอาหารของห้องอาหาร BIG fish ที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือ อาหารที่เป็นลักษณะ Grill เค้าจะไม่ใช้เตาแก๊ส แต่จะใช้เป็นเตาถ่าน เพื่อให้อาหารมีกลิ่นที่หอมจากเตา


ปลา Sea Bass ยัดไส้ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง พริก ห่อด้วยใบตอง แล้วย่างเพื่อให้ได้กลิ่นหอม ทานคู่กับซอสซีฟู๊ด เมนูนี้เรียกว่าได้ทั้งสุขภาพและความอร่อยไปพร้อมๆ กันเลย




สำหรับใครที่ชอบทานเนื้อนะครับ เมนูนี้สุดยอดเลยล่ะครับ เค้าจะตุ๋นเนื้อไว้ประมาณ 15 ชั่วโมงด้วยอุณหภูมิ 65 องศา ทำให้เนื้อยุ่ยมากๆ 



ปิดท้ายด้วยขนมหวานและผลไม้ในเมนูเดียวกันไปเลย





ร้าน Big Fish ตั้งอยู่บริเวณริมหาด ยามค่ำคืนจะสวยมากๆ เล่นล่ะครับ


จบมื้อค่ำที่สุดแสนจะอิ่มและอร่อยมากๆ


ผ่านกันไปแล้วนะครับสำหรับห้องพัก และ ห้องอาหาร ของรีสอร์ท 
เดี๋ยวเราไปดูกันต่อครับว่า ที่รีสอร์ทแห่งนี้มีอะไรทำกันบ้าง

แต่เชื่อได้เลยครับว่า เป็นใครได้เลือกมาพักที่นี่แล้วคงไม่อยากออกไปไหนอีกเลยครับ


มีอะไรทำบ้างที่ หัวหิน มาริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา

แน่นอนครับว่าความโดดเด่นภายใน หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา คงหนีไม่พ้นสระว่ายน้ำที่สุดแสนจะอลังการ เพราะว่าถ้าใครชอบว่ายน้ำล่ะก็ เราสามารถว่ายน้ำเป็นระยะทางที่ยาวมาก



บริเวณสระว่ายน้ำใหญ่ ที่อยู่บริเวณหน้าหาด จะมีกิจกรรมให้ได้ทำกันอย่างเช่น เครื่องเล่นสไลเดอร์ และ ห่วงบาส


หรือถ้าใครไม่อยากทำอะไรก็นอนพักผ่อนชิลล์ๆ ริมสระก็ได้ครับ



นอกจากนั้นที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำสำหรับคนที่ต้องการความสงบ คือ เค้าจะเน้นจะผู้ใหญ่เท่านั้น ดังนั้นโซนนี้จะเป็นโซนที่ค่อนข้างสงบมาก และบริเวณรอบสระว่ายน้ำจะมีต้นไม้สูงบังตาไว้ เพื่อความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น



 




แต่สำหรับคุณน้องคุณหนู คงต้องมาสัมผัสความสนุกสนาน กันตรงบริเวณบ้านต้นไม้ ละครับ เพราะว่าโซนนี้คือโซนที่สร้างมาเพื่อคุณน้องคุณหนูโดยเฉพาะเลยทีเดียว





ห้อง Kid's Club ที่อัดแน่นไปด้วยของเล่น และ กิจกรรมให้ทำมากมาย
พวกเราไปพักกันแบบครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ซึ่งถือว่าเหมาะมากๆ
เจ้าตัวเล็กเรียกร้องแต่ละลงมาเล่นที่ Kid's Club เนี่ยแหละครับ

ภายในห้องนอนจะมีตารางกิจกรรมต่างๆ สำหรับคุณน้องคุณหนูนะครับ เราสามารถดูจากตารางได้ว่า วันไหนมีกิจกรรมอะไรให้เด็กๆ ทำบ้าง 




ระหว่างที่เจ้าตัวเล็ก เค้ากำลังเล่นอยู่ใน Kid's Club ผมก็ขอมาแอบนอนงีบ อยู่ตรงนี้ ตอนแรกว่าจะนอนอ่านหนังสือเพลินๆ แต่เจอลมทะเลพัดไปพัดมา หลับไปไม่รู้ตัวเลย



เนื่องจาก หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา เป็นรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ติดกับชายหาด ทำให้เราสามารถลงไปเดินเล่นที่ชายหาดได้อย่างสะดวก และ ที่สำคัญ พื้นที่หาดบริเวณด้านหลังรีสอร์ท เป็นพื้นที่ ที่มีการตกลงกันในเรื่องของกิจกรรมทางน้ำ ต่างๆ ว่าไม่ให้มาเล่นกันจนพลุกพล่าน ทำให้บริเวณนี้ดูเงียบสงบกว่าบริเวณช่วงอื่นๆ ของหาด

นอกจากนั้นภายในรีสอร์ทยังมี Fitness สำหรับคนที่คิดว่าเจริญอาหารมากเกินไปในระหว่างเข้าพัก ก็สามารถไปเบิร์นพลังงานออกกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงหากใครต้องการใช้บริการนวด สปา ที่นี่เค้ามีสปาที่ขึ้นชื่อมากๆ อย่าง Quan Spa ซึ่งเป็นสปาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยมีโปรแกรมสำหรับคนขี้เมื่อยหลากหลายโปรแกรม


เดินชมบรรยากาศยามเย็นกันต่ออีกซักนิด




สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับการเข้าพักที่ หัวหิน มาริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา



หลังจากการเข้าพักเป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ต้องยอมรับว่าเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน และ ขอสรุปเป็นข้อๆ เกี่ยวกับความประทับใจที่มีต่อ หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา
  1. พนักงานให้การต้อนรับดีเยี่ยม รวมถึงขณะที่เข้าพัก หากเจอพนักงานจะยิ้มแย้มทักทายตลอดเวลา
  2. รีสอร์ทตั้งอยู่ติดกับชายหาดหัวหิน ตรงบริเวณที่หาดทรายสวย และ เงียบสงบ
  3. ภายในรีสอร์ทมีห้องอาหารให้เลือกทานหลากหลายสไตล์ ในราคาที่ไม่สูงเกินไป ทำให้สามารถใช้ชีวิตในรีสอร์ทได้ตลอดช่วงเวลาเข้าพัก ไม่ต้องออกไปหาอะไรทานข้างนอก
  4. ภายในห้องพัก ตกแต่งได้สวยงาม ชอบโทนสีที่ใช้ ดูอบอุ่น เหมาะแก่การพักผ่อน
  5. เตียงนอนหนานุ่ม หมอนก็นอนสบาย เรียกได้ว่าหัวถึงหมอนก็หลับทันที
  6. สัญญานอินเตอร์เน็ตครอบคลุมทั่วทั้งรีสอร์ท และ สัญญานแรงมาก ใช้งานได้ต่อเนื่องตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าสู่ตัวรีสอร์ท
  7. อาหารเช้าอร่อยมาก มีให้เลือกหลากหลาย ชอบตรงที่มะพร้าวมีพนักงานมายืนเฉาะให้กันสดๆ เลย
  8. สระว่ายน้ำใหญ่ เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบว่ายน้ำ แต่นอกจากนั้นยังมีเครื่องเล่นสไลเดอร์ให้เด็กๆ ได้เล่นกันอีกด้วย เหมาะสำหรับครอบครัวจริงๆ




เช็คราคา และ การจองห้องพัก
ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 4,749 - 8,499 บาท
หมายเหตุ ราคาอาจมีการเปลี่ยนขึ้นกับช่วงวันและเวลาเข้าพัก


เช็คห้องว่างและราคาได้ที่นี่





Hua Hin Marriott Resort & Spa
107/1 Phetkasem Road  Hua Hin  77110  Thailand 
โทร. +66-32-904 666
อีเมล์. [email protected]
เว็บไซต์. http://www.huahinmarriott.com


แผนที่ หัวหิน มาริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา

พิกัด GPS 12.561222, 99.960689


บทความที่ได้รับความนิยม